Q&A คำถามที่พบบ่อย

โดยทั่วไปแนะนำตรวจวัดสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดตา มองไม่ชัด แพ้แสง หรือใช้งานหน้าจอเป็นเวลานาน ควรตรวจถี่ขึ้นตามคำแนะนำของนักทัศนมาตร

เริ่มซักประวัติและไลฟ์สไตล์ → ตรวจค่าสายตาด้วยเครื่องดิจิทัล (เช่น WAM) → ประเมินสุขภาพตาเบื้องต้น → ตรวจในห้องมาตรฐาน 6 ม. ด้วย Digital Phoropter → สรุปค่าสายตาและแนะนำเลนส์/กรอบที่เหมาะสม

เวลาเฉลี่ย 30–60 นาที ขึ้นกับความซับซ้อนของค่าสายตา แนะนำให้นัดหมายล่วงหน้าเพื่อความสะดวก และลดเวลารอคิว

เหมาะกับผู้มีภาวะสายตายาวตามอายุที่ต้องการมองชัดหลายระยะในแว่นเดียว ช่วงปรับตัวมักใช้ 3–7 วัน ทีมงานจะฟิตติ้งและวัดพารามิเตอร์อย่างละเอียดเพื่อลดอาการเวียนหัว/มองเอียง

เลนส์ Office ออกแบบช่วงโฟกัสใกล้–กลางให้กว้าง ลดการเพ่งเวลาใช้คอมพิวเตอร์/อ่านหนังสือ ส่วนเลนส์ชั้นเดียวเหมาะกับระยะเดียวเป็นหลัก (ใกล้ หรือ ไกล)

ทำได้ เลือกเลนส์กัน UV โพลาไรซ์ หรือโทนสีต่าง ๆ พร้อมค่าสายตา ช่วยป้องกันแสงจ้าและเพิ่มความสบายตาเมื่อใช้งานกลางแจ้ง

เหมาะสำหรับผู้ใช้หน้าจอนาน ๆ ช่วยลดแสงสะท้อนและอาการล้าตา อย่างไรก็ตาม การพักสายตาและจัดสภาพแสงที่ดีควบคู่ไปด้วยจะได้ผลดีที่สุด

เด็กควรตรวจครั้งแรกเมื่อเริ่มเข้าเรียน และติดตามปีละครั้ง ทางร้านมีตัวเลือกเลนส์/แนวทางดูแลเพื่อช่วยชะลอการเพิ่มของสายตาสั้นตามคำแนะนำของนักทัศนมาตร

โดยทั่วไป 3–7 วันทำการ ขึ้นกับชนิดเลนส์และการเคลือบพิเศษ งานเฉพาะทางบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย

ให้ลองปรับตัว 2–3 วัน หากยังไม่สบายตา ให้นำแว่นและใบตรวจมาที่ร้าน ทีมงานจะช่วยตรวจค่าสายตา ฟิตติ้งตำแหน่งเลนส์ และปรับแก้ให้เหมาะสม

ได้ในหลายกรณี หากกรอบอยู่ในสภาพดีและรองรับค่าเลนส์ใหม่ ทีมงานจะตรวจสภาพกรอบและแนะนำตัวเลือกเลนส์ที่เหมาะสม

เช่น เคลือบกันรอย ลดแสงสะท้อน กรอง UV กรองแสงสีฟ้า และโฟโตโครมิก (เปลี่ยนสีกลางแจ้ง) ทีมงานจะแนะนำให้ตรงกับการใช้งานจริงของคุณ

เราประเมินสัดส่วนใบหน้า โทนสีผิว น้ำหนักกรอบ วัสดุ ความยืดหยุ่น และภาพลักษณ์การใช้งาน (ทำงาน/กิจกรรม/แฟชั่น) เพื่อเสนอกรอบที่ทั้งสวยและใส่สบายตลอดวัน

มีบริการปรับแต่ง ฟิตติ้ง ทำความสะอาด และตรวจเช็กระยะตามเงื่อนไขของร้าน รายละเอียดการรับประกันขึ้นกับชนิดเลนส์และแบรนด์กรอบ โปรดสอบถามเพิ่มเติมที่สาขา